วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ตอนที่ 3 เผ่าพันธุ์พญานาค


มัน เป็นเรื่องที่แปลกเหลือเชื่อ จนอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ว่า การค้นพบโครงกระดูกของฝูงอภิมหางูยักษ์ในเหมืองถ่านหิน ในบริเวณประเทศโคลัมเบียเมื่อปีที่แล้วนั้น โครงกระดูกของอภิมหางูที่พบกลับมีขนาดมิได้แตกต่างไปจากขนาดของพญานาค ที่มีบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณอย่างเช่น
ในคัมภีร์ของชาวฮินดู หรือที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎก

ภาพเปรียบเทียบกระดูกของอนาคอนด้า กับ อภิมหางูยักษ์
 
พญา นาคนั้นนอกจากจะอาศัยอยู่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่าง ตลอดจนถึงในอากาศ บุญบารมีจากการถือศีล ยังส่งพญานาคขึ้นไปสู่ภพภูมิของสวรรค์ในชั้นจาตุมหาราชิกาเลยทีเดียว โดยในตำราโบราณของชาวฮินดูเชื่อกันว่า พญานาค ก็คือ ราชาแห่งงู ซึ่งเป็นงูที่มีขนาดใหญ่ราวต้นตาล มีหงอนสีทอง และดวงตาสีแดง โดยพญานาคนั้นจะแบ่งออกได้เป็น 4 ตระกูล คือ

 
ตระกูลวิรูปักษ์ เป็นพญานาคตระกูลที่มีผิวหนังสีทอง
ตระกูลเอราปถ เป็นพญานาคตระกูลที่มีผิวหนังสีเขียว
ตระกูลฉัพพยาปุตตะ เป็นพญานาคตระกูลที่มีผิวหนังสีรุ้ง
และสุดท้ายตระกูลกัณหาโคตมะ เป็นพญานาคตระกูลที่มีผิวหนังสีดำ
โดย ในคัมภีร์ฉบับดังกล่าว ยังได้อธิบายลึกลงไปถึงการกำเนิดของพญานาคว่า การกำเนิดของพญานาคนั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 4 วิธีด้วยกัน คือ เมื่อเกิดแล้วโตทันที โดยการเกิดเช่นที่ว่านี้ จะเป็นพญานาคในชั้นปกครองเท่านั้น ซึ่งเรียกว่า โอปปาติกะ อีกวิธีหนึ่งก็คือ เกิดจากการตั้งครรภ์ ซึ่งจะเรียกว่า ชลาพุชะ หรือการเกิดจากไข่ ซึ่งเรียกว่า อัณฑชะ และสุดท้ายคือ การเกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม หรือที่เรียกว่า สังเสทชะ
พญานาคกับพระพุทธเจ้าองค์ใหม่                                   
ใน พระไตรปิฎกนั้นระบุว่า พญานาคนั้นจะเป็นงูใหญ่ที่ชอบการถือศีล จะมีอยู่บ้างก็เพียงเล็กน้อยที่เป็นพวกเกดมะเรดเกเร โดยในบันทึกเล่มที่ว่านี้ ยังได้กล่าวถึงพญานาคที่ชื่อ กาฬนาคราช ซึ่งจะเป็นพญานาคขนาดใหญ่ที่นอนหลับใหล อยู่ใต้บาดาลที่ลึกลงไปใต้ดินถึง 500 โยชน์ หรือราว 8,000 กิโลเมตร ซึ่งพญานาคดำตัวนี้ ได้นอนหลับใหลมาเป็นเวลายาวนานหลายหมื่นหลายแสนปีแล้ว โดยกาฬนาคราช หรือพญานาคสีดำตัวนี้ จะตื่นขึ้นมาก็แต่เฉพาะที่ได้ยินเสียงถาดทอง ที่เกิดจากการเสี่ยงทายของพระพุทธเจ้าองค์ใหม่เท่านั้น ในกรณีของพระสมณโคดม ซึ่งเป็นถาดใบที่สี่

โดยในบันทึกที่เขียนไว้ในพระไตรปิฏกอธิบายว่า หลังจากที่นางสุชาดาได้ถวายข้าวมธุปายาส เมื่อนางได้เดินกลับไปบ้านแล้ว พระมหาบุรุษได้เสด็จลุกขึ้นจากอาสนะ โดยทรงถือถาดข้าวเสด็จไปยังริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา หลังจากที่พระองค์เสด็จลงสรงน้ำแล้วขึ้นมาประทับนั่งอยู่ที่ริมฝั่ง ทรงปั้นข้าวมธุปายาสออกเป็นปั้นๆรวมได้ 49 ปั้น แล้วทรงเสวยจนหมด เสร็จแล้วทรงลอยถาดโดยทรงอธิษฐานว่า ถ้าจะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ขอให้ถาดจงลอยทวนกระแสน้ำ เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ถาดใบที่ทรงเสี่ยงทาย สามารถลอยทวนน้ำขึ้นไปไกลถึง 80 ศอก จนไปถึงวังน้ำวนแห่งหนึ่ง   ถาดนั้นจึงได้จมดิ่งหายลงไปจนถึงพิภพของกาฬนาคราช และได้ไปกระทบกับถาดสามใบของพระพุทธเจ้าในอดีตสามพระองค์ คือ พระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ และพระกัสสปะ จนเสียงที่กระทบดังกริ๊ก โดยจมซ้อนอยู่ใต้ถาดเก่าที่มีอยู่แล้ว 3 ใบ แม้เสียงกระทบของถาดใบล่าสุดที่กระทบถาดใบเก่าจะได้ไม่ดังสักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถปลุกให้พญากาฬนาคราชให้ตื่นจากการนอนหลับอันยาวนาน ถึงราว 1 พุทธันดร ซึ่งก็คือ 1 ช่วงเวลาที่ศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งสูญสิ้นลง และมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่เกิดขึ้นมาบนโลก
 
หลัง จากได้ยินเสียงกระทบของถาดเสี่ยงทาย กาฬนาคราช ก็รู้ได้ทันทีว่า ได้มีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่เกิดขึ้นมาอีกหนึ่งองค์ในโลกแล้ว ซึ่งในครั้งที่ 4 นี้ พอพญากาฬนาคราช ตื่นจากหลับใหล ก็รำพึงด้วยความชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่งว่า
“วันวานนี้พระชินสีห์อุบัติในโลกพระองค์หนึ่งแล้ว ซ้ำบังเกิดอีกองค์หนึ่งเล่า”
พญา นาคที่ว่าก็เลยสวดสรรเสริญพระพุทธคุณเป็นร้อยจบ สวดจบก็เข้าสู่นิทราต่อไปจนกว่าจะถึงเวลาที่พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปจะมาอุบัติ ขึ้นอีกครั้ง

ศรัทธาพญานาค
นอก จากพญากาฬนาคราชแล้ว ในพระไตรปิฎกยังได้กล่าวถึง พญานาคตัวอื่นๆ เช่นหลังจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ได้เสด็จไปตามเมืองต่างๆเพื่อแสดงธรรมเทศนา มีครั้งหนึ่งได้เสด็จออกจากร่มไม้อธุปปาลนิโครธ ไปยังร่มไม้จิก เมื่อคราวนั้นได้เกิดฝนตกพรำๆ ประกอบไปด้วยลมหนาวที่พัดติดต่อกันยาวนานถึง 7 วัน ในครานั้นได้มีพญานาคชื่อ มุจลินท์ ได้เข้ามาขดตัวล้อมรอบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ 7 รอบ พร้อมกับยังแผ่พังพานปกพระผู้มีพระภาคเจ้าเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้พระวรกายของพระองค์ถูกละอองของสายฝนและลม ซึ่งหลังจากที่ฝนหายตกแล้ว พญานาคมุจลินท์ ก็ได้คลายขดออก แล้วได้แปลงเพศเป็นมานพหนุ่มมายืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า
นอก จากนั้นยังเคยมีพญานาคตนหนึ่ง ได้มีโอกาสนั่งฟังธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าจนเกิดศรัทธา จึงได้แปลงกายเป็นมนุษย์มาขอบวชเป็นพระภิกษุ แต่เมื่อครั้นเผลอหลับภิกษุรูปนั้นได้กลายเป็นงูใหญ่ ความได้รู้ถึงพระพุทธเจ้าจึงให้พระภิกษุนาครูปนั้นสึกออกไป เพราะเป็นสัตว์เดรัจฉาน จึงทำให้นาคตนนั้นผิดหวังมาก จึงได้ขอถวายคำว่า นาค ไว้ใช้เรียกผู้ที่เข้ามาขอบวชในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นอนุสรณ์ในความศรัทธาของตนต่อจากนั้นมาพระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติไม่ ให้สัตว์เดรัจฉาน ไม่ว่าจะเป็นนาค ครุฑหรือสัตว์อื่นๆ บวชอีกเป็นอันขาด ซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องที่แปลกเหลือเชื่อของ งูใหญ่อันเป็นเผ่าพันธุ์ของพญานาค

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)
ตำบลเมืองบางยม อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

พระวิสัน (พธบ./รปม)

รูปแบบ การวิจัย โดย ผศ.(พิเศษ) นภดล สุชาติ พ.บ M.P.H

อ้างอิงจาก http://www.slideshare.net/guest9e1b8/9-presentation-948269

South East Asia University

สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

ตัวแบบนโยบายสาธารณะสมัยใหม่

กิจกรรมดูงานเชื่อมสายสัมพันธ์ MPA12and MPA13

Download

เสียงปลง

Nonstop - I'm The Sexy Girl - DJ Back Up